หากคุณกำลังมองหา อาหารเสริมแคลเซียมบำรุงกระดูกสำหรับผู้สูงอายุที่ได้รับความนิยมในขณะนี้แนะนำเลย 10 อันดับ อาหารเสริมบำรุงกระดูกสำหรับผู้สูงอายุที่ดีที่สุดในปี 2023

หากคุณกำลังมองหา อาหารเสริมแคลเซียมบำรุงกระดูกสำหรับผู้สูงอายุที่ได้รับความนิยมในขณะนี้แนะนำเลย 10 อันดับ อาหารเสริมบำรุงกระดูกสำหรับผู้สูงอายุที่ดีที่สุดในปี 2023

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mikado Collagen Type II – มิกาโดะ คอลลาเจนไทพ์ทู และ น้ำมันงาดำ
Boots – Calcium D Plus Collagen
BLACKMORES CALCIUM
MEGA WE CARE CALCIUM
VISTRA CALPLEX PLUS BORON
Real Elixir Cal-Cal Plus Vit D, K
MAX BIOCARE K.D.CAL
MORIKAMI CALCIUM L-THREONATE
THE NATURE CALCIUM PLUS 1000
VITAMATE CALCIUM-D

สำหรับผู้สูงอายุหากดูแลตัวเองไม่ดีจะส่งผลให้สุขภาพแย่ลง อีกทั้งร่างกายก็เริ่มเสื่อมโทรมมากขึ้น โรคภัยต่างๆ ก็ตามหา สารอาหารที่ได้รับไม่รู้ว่าเพียงพอต่อความต้องการไหม ในแต่ละวันทำให้จำเป็นอย่างมากที่จะต้องพึ่งอาหารเสริมเพื่อให้ช่วยให้ได้รับสารอาหารครบในแต่ละวัน ก่อนจะแนะนำ สิ่งที่ผู้สูงอายุควรทานเพิ่ม มาเข้าใจก่อนว่า สิ่งที่เป็นปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง

ปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุที่พบได้บ่อย

การเบื่ออาหาร เนื่องจากร่างกายเริ่มเสื่อมทำให้ร่างกายไม่สามารถทำงานได้เป็นปกติ อาจทำให้รู้สึกไม่อยากทานข้าว หรือ ทานข้าวได้น้อยลง อีกทั้งพอเข้าสู่วัยผู้สูงอายุก็เริ่มไม่อยากขยับร่างกาย ร่างกายไม่ได้ใช้พลังงาน จึงก็เลยไม่รู้สึกหิว หรือ เห็นอาหารก็รู้สึกไม่อยากกิน
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง การไม่ได้ขยับร่างกายบ่อยๆ การนอนไม่เพียงพอ จากร่างกายที่เสื่อมถอยเป็นสาเหตุทำให้รู้สึกอ่อนเพลียไม่เรียวแรง ที่เดิน หรือ หยิบจับสิ่งต่างๆ ได้
เบาหวาน โรคยอดฮิตที่ผู้สูงอายุเป็นกันค่อนข้างเยอะ นี่ก็เป็นปัญหาที่พบเจอได้บ่อย ซึ่งต้องควบคุมระดับความหวานและไขมันให้ดี
นอนไม่หลับ เมื่อแก่ตัวขึ้นการหลับก็ยากแล้ว การได้ยินเสียงนิดเดียว หรือ แสงสว่างนิดเดียวก็ทำให้ไม่สามารถนอนได้
กระดูก มีความเสื่อมลงทำให้เกิดการแตกได้ง่าย หากสารอาหารไม่เพียงพอก็ทำให้กระดูกมีปัญหา รวมถึงพวกข้อไข ด้วย
ดวงตา ที่เกิดปัญหาทั้ง วุ้นตาเสื่อม จอตาเสื่อม ต้อตา ต่างๆ เป็นปัญหาเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง

ทำไมต้องเสริมแคลเซียม และควรเสริมปริมาณเท่าไหร่

คนเราควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงให้ได้ปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ ประมาณ 1,000 มิลลิกรัม เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ช่วยบำรุงให้กับกระดูกและฟัน เนื่องจากกระดูกของคนเราจะหนาแน่นได้เต็มที่เมื่ออายุประมาณ 30 ปี หลังจากนั้นกระดูกก็จะเริ่มหนาแน่นน้อยลงไปอย่างช้าๆ

เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ จะมีการสลายของมวลกระดูก ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคกระดูกพรุนทุกคน ดังนั้นการป้องกันภาวะกระดูกพรุนที่มีประสิทธิภาพ ควรเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย หรืออายุก่อน 40 ปี โดยการรับประทานอาหารบำรุงกระดูก และแคลเซียมให้เพียงพอ คือประมาณวันละ 1,000 มิลลิกรัม แต่ผู้หญิงในช่วงวัยหมดประจำเดือน (อายุ 50 ปีขึ้นไป)

ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมเพื่อเสริมกระดูกวันละ 1,500 มิลลิกรัม เช่น นมไม่มีไขมัน ปลาเล็กปลาน้อยพร้อมกระดูก กุ้งแห้ง กุ้งฝอย ถั่วแดง งาดำ อาหารทะเล ผักใบเขียวทุกชนิด เป็นต้น หรือรับประทานอาหารเสริมแคลเซียมชนิดเม็ดเพื่อเสริมกระดูก

สำหรับการรับประทานอาหารเสริมแคลเซียมชนิดเม็ดนั้น เราควรทราบด้วยว่าแคลเซียมแต่ละชนิดนั้นมีการละลายน้ำ และถูกดูดซึมเข้าเนื้อเยื่อร่างกายไม่เท่ากันดังนี้

แคลเซียม แอล ทรีโอเนต/แอลเทรเนต จะละลายน้ำได้ดีมาก และดูดซึมเข้าร่างกายได้เกือบ 100%
แคลเซียม คาร์บอเนต จะไม่ค่อยละลายน้ำ ทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้น้อยกว่า 15%
แคลเซียม กลูโคเนต จะไม่ค่อยละลายน้ำ ทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้น้อยกว่า 15%

นอกจากแคลเซียมที่ต่างกันแล้ว ยาหรืออาหารเสริมแคลเซียมยังมีหลายรูปแบบ ทั้งชนิดที่เป็นยาเม็ดแข็ง ยาเม็ดฟู่ และยาแคปซูล อาหารเสริมแคลเซียมบางชนิดมีการเติมวิตามินดี เพื่อให้แคลเซียมถูกดูดซึมได้ดีขึ้นจากทางเดินอาหาร สำหรับยาวิตามินรวมที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบมักจะมีปริมาณแคลเซียมไม่เพียงพอสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

หากจะรับประทานยานี้ก็ต้องรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมเสริม ไม่ควรเพิ่มขนาดยาวิตามินรวมนั้น เพราะแม้จะได้ปริมาณแคลเซียมตามต้องการ แต่จะได้ปริมาณวิตามินเพิ่มขึ้นไปด้วย ซึ่งวิตามินบางชนิดในขนาดสูงจะเป็นอันตรายได้

เมื่อมีการดูแลส่งเสริมบำรุงสุขภาพกระดูกอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง คือมีอัตราเสริมสร้างมวลกระดูกได้มากกว่าอัตราสลายของมวลกระดูก

เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุก็จะลดปัญหาเรื่องโรคกระดูกสันหลัง ยุบ ทรุด กระดูกข้อมือ กระดูกข้อสะโพกหักจากอุบัติเหตุ ทำให้ผู้สูงอายุสามารถช่วยเหลือตัวเองในกิจวัตรประจำวันในชีวิตบั้นปลายได้ดีขึ้น

หากคุณกำลังมองหา อาหารเสริมแคลเซียมบำรุงกระดูกสำหรับผู้สูงอายุที่ได้รับความนิยมในขณะนี้แนะนำเลย 10 อันดับ อาหารเสริมบำรุงกระดูกสำหรับผู้สูงอายุที่ดีที่สุดในปี 2023

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mikado Collagen Type II – มิกาโดะ คอลลาเจนไทพ์ทู และ น้ำมันงาดำ

สำหรับแบรนด์ Mikado เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูกและข้อ อุดมไปด้วย Collagen Type II หรือ โปรตีนที่สำคัญของร่างกาย ช่วยบำรุงกระดูกข้อต่อให้แข็งแรง และช่วยดูแลปัญหาโรคข้อเสื่อม โดยแบรนด์ Mikado มีปริมาณ Collagen Type II มากถึง 40 มิลลิกรัมต่อแคปซูล ซึ่งจากการวิจัยพบว่าเป็นปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน จึงทำให้การทาน Collagen Type II ของแบรนด์ Mikado เพียงวันละ 1-2 แคปซูล ก็จะช่วยบรรเทาอาการและลดการอักเสบของข้อเข่าเสื่อมได้ดี พร้อมช่วยลดอาการปวดข้อ ข้อเข่าติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Mikado ยังอุดมไปด้วย Calcium L – Threonate มากถึง 460 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นแคลเซียมชนิดพิเศษที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ 100% และมากกว่าแคลเซียมชนิดอื่น ๆ และยับยั้งการสลายตัวของกระดูก อีกทั้งยังมีน้ำมันงาดำ หรือ Black Sesame Oil ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด อาทิเช่น วิตามินบี แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม เป็นสารบำรุงที่จะช่วยลดอาการปวดเข่า ปวดข้อ ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ช่วยลดความเครียด บำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยบำรุงเลือด ช่วยบำรุงซ่อมแซมผิวไม่ให้เหี่ยวแห้ง และมีคอลลาเจนไดเปปไทด์ ซึ่งจะช่วยในเรื่องเพิ่มน้ำในบริเวณข้อต่อ เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีคุณประโยชน์จากส่วนผสมอีกมากมาย เช่น สารสกัดจากขมิ้นชัน วิตามิน ซี วิตามิน ดี3 และวิตามิน เค1 ดังนั้นแบรนด์ Mikado ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงเหมาะกับการบำรุงกระดูก ข้อต่อและข้อเข่า พร้อมเสริมสร้างกระดูก และร่างกายให้แข็งแรง สำหรับผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

ส่วนประกอบ :

Calcium L-Threonate (แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต) 460 mg.

Black sesame oil (น้ำมันงาดำ) 350 mg.

Fish Collagen Peptide (คอลลาเจนจากปลา) 100 mg.

Magnesium Oxide (แมกนีเซียมออกไซด์) 55 mg.

Collagen Type II (คอลลาเจน ไทพ์ ทู) 40 mg.

Vitamin C (วิตามิน ซี) 15 mg.

Turmeric Extract (สารสกัดจากขมิ้นชัน) 5 mg.

Vitamin D3 (วิตามิน ดี3) 0.50 mg.

Vitamin K1 (วิตามิน เค1) 0.50

วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร

เลขที่ อย. : 16-1-06765-5-0077

ราคา : 285 – 950 บาท

ซื้อสินค้าได้ที่ Lazada | Shopee

การันตีด้วยการดำเนินธุรกิจเวชภัณฑ์มายาวนานและมีร้านสาขาอยู่มากมาย Boots จึงออกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมที่มีชื่อว่า Calcium D Plus Collagen โดยภายใน 1 แคปซูลประกอบด้วยแคลเซียม 600 มิลลิกรัม และวิตามินดี 3 ที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น นอกเหนือจากวิตามินดีซึ่งมักมาคู่กันกับอาหารเสริมแคลเซียมแล้ว ยังมี Marine Collagen ปริมาณ 100 มิลลิกรัมด้วย สารชนิดนี้จะช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อกระดูก ช่วยลดการเกิดข้อกระดูกเสื่อมได้ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมของ Boots เลยก็ว่าได้

รับประทานวันละ : 1 แคปซูล

ขนาดที่วางจำหน่าย : 60 แคปซูล

ราคาโดยประมาณ : 480 บาท

BLACKMORES CALCIUM

บริษัทผู้นำการผลิตอาหารเสริมเจ้าใหญ่และขึ้นชื่อจากออสเตรเลียอย่าง BLACKMORES ได้สร้างผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมชนิดเม็ดในชื่อ BLACKMORES CALCIUM ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้มีทั้งคุณค่าทางสารอาหารแคลเซียมและพร้อมด้วยวิตามินดีบรรจุอยู่ในเม็ดเดียวกัน โดยใน 1 เม็ดประกอบด้วยแคลเซียม 500 มิลลิกรัมและวิตามินดีอีก 200 หน่วยสากล (IU) ข้อดีคือผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องไปมองหาอาหารเสริมวิตามินดีใด ๆ เพิ่มอีก เพราะมีครบจบในเม็ดเดียว อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของแบลคมอร์สก็มีวางจำหน่ายตามร้านขายยาและร้านค้าชั้นนำทั่วไป ซึ่งหาซื้อได้ง่ายและบริโภคได้อย่างสะดวก

รับประทานวันละ : 1 เม็ด

ขนาดที่วางจำหน่าย : 60 , 120 เม็ด

ราคาโดยประมาณ : 260 – 660 บาท

บริษัทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่หลายคนคงคุ้นหูอย่าง MEGA WE ได้ออกผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างแคลเซียมแก่ร่างกาย นั่นก็คือ MEGA WE CARE CALCIUM – D อันประกอบด้วยแคลเซียม 600 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นแคลเซียมชนิดเหลวที่อยู่ในรูปแบบแคปซูลที่ทั้งง่ายต่อการละลายและสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทันที อีกทั้งยังมีส่วนผสมของวิตามินดี 3 อีก 200 หน่วยสากล (IU) เพื่อช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ MEGA WE ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมอีกชนิดหนึ่ง คือ MEGA WE CARE CALCIUM – D WITH SOY GERM ที่มีส่วนผสมของสารไอโซฟลาโวนจากจมูกถั่วเหลือง ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันโรคกระดูกพรุนและลดการสลายตัวของแคลเซียมได้

รับประทานวันละ : 1 แคปซูล

ขนาดที่วางจำหน่าย : 90 แคปซูล

ราคาโดยประมาณ : 295 บาท

VISTRA CALPLEX PLUS BORON

อีกหนึ่งบริษัทใหญ่แห่งวงการอาหารเสริม VISTRA ที่สร้างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพมามากมาย ก็ได้ผลิตอาหารเสริมแคลเซียมอย่าง VISTRA CALPLEX PLUS BORON ออกมาวางตลาดด้วยเช่นกัน โดยเม็ดยาของผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีแคลเซียมอยู่ถึง 700 มิลลิกรัม ซึ่งช่วยในกระบวนการสร้างและเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีส่วนผสมของสารโบรอน ซึ่งเป็นสารที่ส่งผลดีต่อความหนาแน่นของกระดูก นอกจากนี้ ในเม็ดยาเดียวกันยังมีส่วนผสมของแร่แมกนีเซียม วิตามินดี 3 วิตามินเค สังกะสี ทองแดง วิตามินบี6 วิตามินบี12 และกรดโฟลิกด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่ายกาย ช่วยส่งเสริมสุขภาพได้อย่างหลากหลายทั้งสิ้น

รับประทานวันละ : 1 เม็ด

ขนาดที่วางจำหน่าย : 30 เม็ด

ราคาโดยประมาณ : 220 บาท

Real Elixir Cal-Cal Plus Vit D, K เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมที่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำทุกวัย ด้วยตัวผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแคลเซียม 600 มิลลิกรัม บวกกับวิตามินดีและวิตามินเค ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมและสารอาหารต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น อาหารเสริมแคลเซียมชนิดนี้เน้นในการช่วยรักษาสมดุลของแคลเซียมในกระแสเลือด เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ซึ่งเหมาะกับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในสตรีวัยหมดประจำเดือนที่มีระดับแคลเซียมในร่างกายลดลงเป็นอย่างมาก

รับประทานวันละ : 1-2 เม็ด

ขนาดที่วางจำหน่าย : 30 เม็ด

ราคาโดยประมาณ : 250 บาท

MAX BIOCARE K.D.CAL

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสัญชาติออสเตรเลียอย่าง MAX BIOCARE K.D.CAL ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกอาหารเสริมแคลเซียมที่น่าสนใจ เพราะเป็นแคลเซียมที่อยู่ในรูปแบบรับประทานง่าย ซึ่งเป็นแบบเคี้ยวหรือเจาะผสมลงในอาหารหรือน้ำผลไม้ได้ เหมาะสำหรับผู้บริโภคตั้งแต่วัยเด็กที่ต้องการเพิ่มความสูงบำรุงกระดูกไปจนถึงวัยผู้สูงอายุที่ต้องการเพิ่มแคลเซียมเพื่อซ่อมแซมกระดูกส่วนที่สึกหรอมากขึ้น โดยภายใน 1 แคปซูล ประกอบไปด้วยแคลเซียม 678 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับการดื่มนมสด 600 มิลลิลิตร และยังมีฟอสฟอรัส 154 มิลลิกรัม วิตามินดี 3 และวิตามินเค 1 ซึ่งมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมในร่างกายด้วย ที่สำคัญคือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากส่วนผสมของถั่ว ไข่ กลูเต็น หรือสารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ต่าง ๆ ด้วย

รับประทานวันละ : 1 แคปซูล (สำหรับเด็กอายุ 1-3 ปี)

1-2 แคปซูล (สำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป และผู้ใหญ่)

ขนาดที่วางจำหน่าย : 30 แคปซูล

ราคาโดยประมาณ : 890 บาท

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดนี้นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ โดย MORIKAMI CALCIUM L-THREONATE มีแคลเซียมอยู่ 500 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นแคลเซียมชนิดที่สามารถละลายในน้ำได้โดยไม่ต้องพึ่งกรดในการทำละลาย จึงทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้อย่างเต็มที่มากถึง 95% โดย MORIKAMI CALCIUM L-THREONATE ชูสรรพคุณในด้านการเสริมสร้างแคลเซียมให้เพียงพอต่อร่างกาย ยับยั้งการสลายตัวของกระดูกข้อต่อ สร้างมวลกระดูกที่แข็งแรงเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนและอาการข้อเสื่อม ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนการทดลองจากแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย

รับประทานวันละ : 1 แคปซูล

ขนาดที่วางจำหน่าย : 30 แคปซูล

ราคาโดยประมาณ : 480 บาท

THE NATURE CALCIUM PLUS 1000

หากคุณกำลังมองหาอาหารเสริมแคลเซียมที่ทำจากธรรมชาติ THE NATURE CALCIUM PLUS 1000 คงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะใน 1 เม็ดประกอบไปด้วยแคลเซียมกว่า 800 มิลลิกรัม ที่มีส่วนผสมของสาร Marine Collagen Peptide ที่สกัดได้จากปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในบริเวณดังกล่าวด้วย นอกจากนั้น ยังมีส่วนประกอบของ Soy Peptide ที่มีสรรพคุณช่วยลดการสูญเสียมวลกระดูกอันเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุน และภาวะกระดูกเปราะ บาง แตกหักได้ง่าย

รับประทานวันละ : 1 เม็ด

ขนาดที่วางจำหน่าย : 30 เม็ด

ราคาโดยประมาณ : 300 บาท

ในขณะที่ผู้ผลิตบางรายผลิตแคลเซียมในรูปแบบเม็ดยา แต่ VITAMATE CALCIUM-D เป็นอะไรที่แตกต่าง โดยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียมชนิดนี้อยู่ในรูปแบบแคปซูลนิ่มที่ผลิตจากพืช รับประทานได้ง่าย กลิ่นไม่แรง และไม่ละลายในปาก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่บริโภคมังสวิรัติ ผู้ที่แพ้กลูเต็น รวมถึงผู้ที่รักสุขภาพทั่วไป โดยผลิตภัณฑ์นี้นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ภายในเม็ดยา 1 แคปซูลประกอบด้วยแคลเซียม 500 มิลลิกรัม เสริมด้วยวิตามินดีปริมาณ 50 หน่วยสากล (IU) ที่จะช่วยกระตุ้นการดูดซึมแคลเซียม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ส่งเสริมการทำงานของประสาท กล้ามเนื้อ รวมถึงฮอร์โมนจำเป็นบางอย่างในร่างกาย ซึ่งเหมาะกับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือสตรีในวัยหมดประจำเดือนเป็นอย่างยิ่ง

รับประทานวันละ : 1 แคปซูล

ขนาดที่วางจำหน่าย : 60 แคปซูล

ราคาโดยประมาณ : 476 บาท